Drabble : The role.
Fandom : Hobbit
Pairing: Fili x Kili
ในตอนนั้น สิ่งเดียวที่ข้าคิดก็คือ ต้องดึงคันโยกนั่น!!!
พวกเราคนแคระทั้งสิบสามคนเดินทางมาไกลมากเหลือเกินเพื่อทวงคืนบ้านเกิด
เอเรบอร์….
อาณาจักรที่ล่มสลายเพราะความพิโรธของสัตว์ร้ายในตำนานที่มาพร้อมกับเปลวเพลิง
และข้าจะไม่ยอมให้มันจบลงที่การกลับไปตกเป็นเชลยของพวกเอล์ฟเป็นแน่..
แน่นอนว่าข้าดึงคันโยกสำเร็จ พวกเราทุกคนหนีรอดมาจากทั้งเอล์ฟและออร์คที่ตามล่า
ทุกอย่างควรจะเรียบร้อยพวกเราควรจะได้ไปอยู่กันพร้อมหน้าตอนที่ประตูบานนั้นเปิดออก ถ้าหากว่าข้าไม่ถูกยิงเข้าต้นขาเสียก่อน
และลูกศรนั้น ไม่ได้อาบไว้ด้วยพิษร้าย…..
/////////////////////////////////////////////////////////////
ฟิลีรู้สึกร้อนใจ…
อาการของน้องชายนับวันจะยิ่งแย่ลง ตั้งแต่คิลีถูกยังเขาเองก็ได้แต่คอยสังเกตอาการของอีกฝ่ายมาตลอด
แม้ว่าเจ้าตัวจะยังทำตัวเข้มแข็งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทว่าใบหน้าที่ซีดเซียวเหมือนคนเจ็บไข้ ริมฝีปากที่ซีดเผือดมาขึ้นเรื่อยๆ ต่อให้ไม่ใช่เขาเองก็คงมีผิดสังเกตกันบ้าง
และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมราชาแห่งขุนเขาถึงเอ่ยถามพระนัดดาในสายเลือดตนว่าไหวหรือไม่ในยามที่ส่งอาวุธให้ขน
คิลีตอบว่าไหว แต่ร่างกายก็ไม่ใช่สิ่งที่จะโกหกได้ดังปากว่า
คิลีล้มลง อาวุธตกกระจาย
และพวกเราทุกคนถูกจับอีกครั้งด้วยน้ำมือของมนุษย์
ดีที่เรื่องครั้งนี้จบลงด้วยดี ท่านลุงธอรินเจรจากับเจ้าเมืองของพวกมนุษย์สำเร็จ
และนั่นทำให้พวกเราทุกคนได้ออกเดินทางอีกครั้งด้วยเกราะเต็มยศ พร้อมอาวุธและเสบียง
พวกเราทุกคน…. ไม่สิ เกือบจะทุกคนไม่นับโบเฟอร์ที่นอนเมาแอ๋อยู่ในท้องพระโรง และคิลี
เสียงตะโกนถกเถียงของน้องชายกับผู้เป็นลุงเรียกให้เขาหันกลับไปมอง
คิลียืนยันว่าตัวเองไหว และร้องขอให้ตนเองได้กลับเข้าร่วมคณะเดินทางอีก
ธอรินไม่อนุญาต
แน่นอนว่ามันจะต้องเป็นเช่นนั้นเพราะบทบาทที่ ธอริน โอเคนชีลด์ สวมอยู่มิใช่มีเพียงท่านลุงของพวกเขาสองพี่น้อง แต่ยังเป็นกษัตริย์เอเรบอร์ ผู้นำแห่งคณะเดินทาง และความหวังของคนแคระอพยพที่สูญเสียบ้านเกิด
สำหรับการรวมอำนาจ อาเคนสโตน ย่อม สำคัญกว่า หลานชายที่บาดเจ็บ
ท่านลุง ท่านเป็นกษัตริย์ที่ดี
ท่านเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม
แต่ข้าเป็นแค่เพียงพี่ชายของน้องชายที่กำลังบาดเจ็บ
หากท่านลุงไม่ยอมให้เขาแบกคิลีไปยังเอเรบอร์ เขาก็จะอยู่เป็นเพื่อนน้องชายที่นี่
“ข้าจะไม่ไปเอเรบอร์ท่านลุง ข้าจะอยู่กับคิลี”
//////////////////////////////////////////////////////////////////
“ท่านพี่……..ข้าคิดถึงท่านแม่”
ด้วยความที่เดิมทีคิลีเป็นคนช่างพูดทำให้พวกเขาสองคนพีน้องแทบจะสนทนากันอยู่แทบตลอดเวลา ทำให้บรรยากาศในคืนนี้ดูอึดอัดชอบกลเพราะนอกจากนอนหลับกับตื่นขึ้นมามองเขาด้วยสีหน้าเศร้าๆก็แทบจะไม่ได้พูดอะไรทั้งวัน จนกระทั่งผ่านไปเกือบครึ่งคืน
มือเล็กๆของน้องชายที่พยามจะยื่นมาหาทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรีบยื่นมือไปกุมเอาไว้
“ข้าก็คิดถึงท่านแม่เช่นกัน ดีขึ้นแล้วหรือ อาการเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”
….นี่มันไม่โอเคแล้วแน่ๆ…..
มือเล็กข้างที่เขาจับอยู่สั่นระริกและเย็นเฉียบ แม้แต่ดวงตาสีน้ำตาลสดก็ปิดปรือไปเสียครึ่งหนึ่ง
“เราจะได้ไปเอเรบอร์กันใช่ไหม ถ้าข้าหายแล้ว” ริมฝีปากที่ซีดจนเกือบเขียวยังคงเอ่ยบทสนทนาอย่างเจื้อยแจ้วกับพี่ชาย “ที่ที่ท่านแม่กับท่านลุงเคยอยู่….แล้วสม็อกล่ะ ท่านว่ามันยังจะนอนอยู่รึเปล่า ใต้กองทองนั่น…”
คิลีบอกกับตัวเองว่าเขาพยามเต็มที่แล้วที่จะเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็ง แต่อ้อมกอดของพี่ชายที่ดึงเขาไปกอดไว้เสียแน่นมันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
“ได้สิได้แน่นอน พวกเราจะไปทวงบ้านเกิดของพวกเราแล้วก็กลับไปหาท่านแม่ด้วยกันนะ คิลี”
เสียงเขาสั่นเหมือนจะร้องไห้
น้องชายของเขาเองก็กำลังร้องไห้ ที่นี่ไม่มีหมอ แล้วก็ไม่มียา ความหวังที่วาดไว้ของพวกเขาจึงเรียกได้ว่าริบหรี่เต็มที
คนแคระไม่ใช่หมอ ความรู้ที่เขามีแก้พิษไม่ได้ ที่เขาทำได้มีแค่เพียงใช้สมุนไพรบรรเทาความเจ็บปวดและอยู่ข้างๆน้องชายของเขาเท่านั้น
คิลียังเด็กเกินไป
เด็กเกินที่จะต้องมาจบชีวิตอยู่ที่นี่
ปาฏิหาริย์ คือสิ่งที่ฟิลีกำลังหวังให้เกิดขึ้นอย่างสุดใจแม้ว่าเขาจะไม่เคยเชื่อก็ตาม
TBC.
Written by ++YuHankunG++
Reblogged this on momonoy and commented:
ฟินนนนนนนนนนน
[…] ← [fic][Hobbit2] The role. […]
ฟิลี รักน้องเว่ิอร์จริงๆ ตอนดูในโรงก็กรี๊ด ข้าจะอยู่กับคิลี แอร๊ยยยยยยยยย ><
เราชอบตอนที่บอกว่า ข้าจะแบกเขาไปเองถ้าต้องทำล่ะ อร๊าย
แงงงงงงงงอ่านแล้วนี่แทบจะกระโจนไปโรงหนัง
ภาพฉากฮอบบิทสองนี่พรั่งพรูเข้ามาเลยแงแงแง
พนสอบ…
http://wp.me/p3Cudi-5c แนะนำต่อด้วยฮอบบิทสามเลยค่ะ
เดี๋ยวๆๆๆๆ ยังไม่ได้ดูเลย พรุ่งนี้ไปดูแล้ว ฮึบอดทนๆ